การซื้อขายตลาดหลักทรัพย์นอกเวลาทำการ คืออะไร นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จาก After-Hours ได้อย่างไรบ้าง
ด้วย Team Exness

เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทุกคนที่หันมาสนใจหุ้นจะพบว่าเส้นราคามีการทะลุรายวัน ตลาดจะปิดและเปิดที่ราคาต่างกันในวันถัดไป แล้วใครหรืออะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อนราคาหลังเวลาปิดทำการ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคำสั่งซื้อขายค้างที่ตกอยู่ในช่องว่างนั้นคืออะไร
ช่วงของการซื้อขายนอกเวลาทำการ
ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แนวคิดที่ว่าการซื้อขายหุ้นไม่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงอาจฟังดูล้าสมัยไปบ้าง แน่นอนว่าการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์มีเวลาปิดอยู่เสมอ และมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมตลาดหลักทรัพย์ถึงมีเวลาปิดทำการ
ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องนี้ อยากชวนมาทำความเข้าใจคำศัพท์บางคำในยุคก่อนดิจิทัลกันก่อน นักลงทุนคือผู้ที่มีเงิน โบรกเกอร์ หรือ นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ คือหน่วยงานที่มีช่องทางเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ และเทรดเดอร์คือพนักงานของโบรกเกอร์ที่เป็นตัวแทนของบริษัทในพื้นที่พิเศษหรือที่แต่ก่อนจะเรียกพื้นที่นี้ว่า "the pit"
ในสมัยก่อน เทรดเดอร์ไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้โดยการนั่งบนโซฟาพร้อมกับแล็ปท็อป พวกเขาจำเป็นต้องมีใบอนุญาตและต้องไป ณ สถานที่ใดที่หนึ่งเพื่อทำการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นสถานที่สำคัญอันดับหนึ่งที่สุดที่จะต้องไป โบรกเกอร์ส่งเทรดเดอร์ไปยังตลาดหลักทรัพย์พร้อมกับรายการธุรกรรมหรือข้อตกลงที่จะต้องทำเพื่อนักลงทุนของพวกเขา
เทรดเดอร์จะทำการพบปะและคลุกคลีทำความรู้จักกัน พร้อมมองหาเทรดเดอร์รายอื่นที่ทำการซื้อขายในนามของลูกค้าหรือนักลงทุนด้วย เคล็ดลับคือการหาคนที่ต้องการซื้อสิ่งที่พวกเขากำลังขายและในทางกลับกันก็ขายในสิ่งที่ฝ่ายกำลังต้องการซื้อ
การส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ในยุคนี้ จะใช้ระบบที่เรียกว่า “Open Outcry” โดยเหล่าโบรกเกอร์รวมถึงเทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อขาย ไปยืนเบียดรวมกันที่ห้องค้าในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อตะโกนและทำสัญญาณมือส่งคำสั่งซื้อและขาย
เทรดเดอร์บางรายที่มีพอร์ตการลงทุนเหมือนกันถึงกับคิดค้นภาษามือหรือสัญญาณมือที่มีความหมายต่างกัน รวมถึงสินทรัพย์ ราคา ซื้อหรือขาย และปริมาณของคำสั่งซื้อขาย
เมื่อโทรศัพท์มือถือกลายเป็นที่นิยม และนี่ก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งคำสั่งซื้อขายแบบออนไลน์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ลองจินตนาการถึงเทรดเดอร์ที่กำลังยืนอยู่ในห้องซื้อขายและทำข้อตกลงกันผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และลูกค้าที่กำลังนั่งอยู่ที่ออฟฟิศอันเงียบสงบกำลังตะโกนว่า "ขายสิ... ขายสิ!" ลงไปในโทรศัพท์เพื่อให้เทรดเดอร์ได้ยิน
เพื่อเป็นการตอบสนอง เทรดเดอร์ได้ส่งสัญญาณมือไปยังเทรดเดอร์รายอื่น และข้อตกลงก็เกิดขึ้น ระดับความเครียดที่เกินมาตรฐานและส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเทรดเดอร์
ช่วงเวลาที่ตลาดกำลังหลับใหล (The market sleeps)
ช่วงเวลาที่ตลาดกำลังหลับใหลคือเวลาเดียวกันกับที่คนเราต้องการนอนหลับ สำหรับเทรดเดอร์แล้วนั้น ระหว่างช่วงเวลา 9.30 น. ถึง 16.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ตามด้วยงานเอกสารมากมายที่สำนักงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์หลังจากพระอาทิตย์ตก ซึ่งชั่วโมงการทำงานที่จำกัดเป็นเรื่องที่มีเหตุผล แต่ไม่ใช่เพียงเพราะข้อจำกัดทางด้านมนุษย์เท่านั้น
เทรดเดอร์อยู่ในห้องเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา การแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ยิ่งมีผู้เข้าร่วมในตลาดมากเท่าไร สภาพคล่องก็มากขึ้น และยิ่งมีตัวเลือกมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยการจำกัดด้านเวลา จะบังคับให้ปริมาณการซื้อขายเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อรักษาสภาพคล่องให้สูง สเปรดต่ำ (หรือต่ำกว่า) และยังจำกัดความผันผวนโดยเฉลี่ย ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยกว่าและมีโอกาสถูกแทรกแทรงน้อย แต่เวลาและเทคโนโลยีก็เปลี่ยนไป และปริมาณการซื้อขายทั่วโลกก็เริ่มเพิ่มขึ้น
การเข้าสู่ตลาดยุคดิจิทัล
ในช่วงทศวรรษที่ 1980 การซื้อขายผ่านคอมพิวเตอร์ได้เข้ามาแทนที่ และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กกลายเป็นเมืองร้าง เสียงตะโกนค่อยๆ จางหายไป และคำสั่งซื้อการซื้อขายก็ได้รับการประมวลผลโดยศูนย์ข้อมูลแทน
แม้ว่าตลาดจะสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเลือกที่จะจำกัดชั่วโมงการซื้อขายไว้ แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ เวลาซื้อขายปกติยังคงเป็น 9.30 น. ถึง 16.00 น. ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ
เหตุผลหลักสำหรับเวลาทำการมาตรฐานคือในด้านของสภาพคล่อง แม้ว่าสาธารณชนจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่การมีเวลาซื้อขายที่กำหนดไว้ ช่วยรักษาระดับสภาพคล่องให้สูงโดยการบังคับให้ผู้ซื้อและผู้ขายมารวมกันภายในกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งจะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเข้าสู่ยุคดิจิทัลแต่ยุคดิจิทัลก็ไม่ได้เปลี่ยนไดนามิกสภาพคล่องของตลาด
ผู้ดูแลสภาพคล่องและธนาคารขนาดใหญ่ช่วยทำให้ตลาดมีสภาพคล่องในการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง และทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในสิ่งนั้น ในช่วงทศวรรษ 1990 ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กตระหนักดีว่าบริษัทการลงทุนในยุโรปและเอเชียมีความต้องการมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเสนอการซื้อขายแบบขยายเวลาออกไปขึ้นมา
แต่ในไม่นานก็ทำให้รู้ว่าช่วงเวลาซื้อขายนอกเวลาทำการที่มีสภาพคล่องต่ำนั้นไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกราย กลยุทธ์ต่างๆ จึงได้รับการพัฒนาขึ้นและนักวิเคราะห์ก็ได้ค้นพบวิธีการที่จะใช้ประโยชน์จากการซื้อขายนอกเวลาทำการ
ควรทำการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์นอกเวลาทำการหรือไม่
คำตอบ คือ ไม่ การซื้อขายนอกเวลาทำการอาจเป็นอันตรายต่อพอร์ตการลงทุนของคุณได้ ผู้ดูแลสภาพคล่องส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อขาย ซึ่งหมายความว่ามีสภาพคล่องในตลาดต่ำ สเปรดกว้าง และความผันผวนสูง จากนั้นยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาด แม้ว่ายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่เทรดเดอร์มืออาชีพทุกคนก็ควรที่จะให้ความสนใจกับเรื่องนี้
เทรดเดอร์จำนวนมากอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการคาดการณ์จุดเข้าและจุดออก มีบางแนวปฏิบัติที่เป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ทางเทคนิค เช่น การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ที่สัมพันธ์กับช่วงราคาปัจจุบัน
นักวิเคราะห์ระบุจุดเหล่านี้บนกราฟ และองค์กรขนาดใหญ่สามารถแกว่งราคาตลาดได้อย่างง่ายดายในช่วงนอกเวลาทำการเพื่อกระตุ้นให้เกิดคำสั่งซื้อขายที่รอดำเนินการเหล่านั้น
ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขาย CFD ผู้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจำเป็นต้องหาผู้ซื้อสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาขาย และในทางกลับกันก็ขายในสิ่งที่มีคนต้องการซื้อ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าธนาคารต้องการถ่ายหุ้น AAPL ซึ่งติดอยู่ในช่วงราคาที่แคบ ด้วยปริมาณที่ค่อนข้างน้อย (ในระหว่างการซื้อขายนอกเวลาทำการ) พวกเขาสามารถกระตุ้นการกลับตัวของราคา กกระตุ้นคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการ ณ เวลาที่ตลาดเปิด และขายออกจากตำแหน่งของพวกเขา สิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่องค์กรเดียวสามารถขับเคลื่อนตลาดไปในทิศทางที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองได้ชั่วคราว
อีกประเด็นที่น่าสังเกตคือบางครั้งบริษัทต่างๆ จะประกาศข่าวสำคัญหลังเวลาทำการของตลาด เช่น รายงานผลประกอบการ ซึ่งการเผยแพร่ล่าช้า (ในเวลากลางคืน) ช่วยลดการพุ่งสูงขึ้นของราคาชั่วขณะ ชั่วโมงระหว่างการประกาศและตลาดเปิดจะให้เวลาสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ในการย่อยข้อมูลและจำกัดการซื้อขายที่อาจเกิดจากการตื่นตระหนกได้
รายงานนอกเวลาทำการมักจะนำไปสู่การซื้อขายที่มีความผันผวนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่นาทีแรกหลังเปิดตลาด เทรดเดอร์ที่มีคำสั่งซื้อที่เปิดตั้งแต่คืนก่อนหน้ามักจะเห็น Stop Out ในช่วงไม่กี่นาทีแรกของการเปิดตลาดหุ้น จากนั้นตลาดกลับเคลื่อนไหวในทิศทางที่พวกเขาคาดการณ์หลังจากคำสั่งของพวกเขาปิดแล้ว
หากคุณต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในความผันผวนของตลาดนอกเวลาทำการล่ะก็ ให้ตั้งค่าคำสั่งที่รอดำเนินการไว้ข้ามคืน จำกัดเลเวอเรจ และตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit หลีกเลี่ยงบริษัทที่จะเปิดเผยรายงานผลประกอบการในช่วงที่ปิดทำการ จากนั้นรัดเข็มขัดแล้วเตรียมตัวให้พร้อมและเตรียมพบกับความผันผวนในเวลา 09.30 น. ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ
ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ
ผู้เขียน:
